ลอฟเรนเผย กำหนด เมื่อราวปี 2017 เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยพยายามเตือนลำแข้งเยาวชนคนหนึ่งของ หงส์แดง ที่ขับขี่รถหรูกับใส่นาฬิกาข้อมือราคาสูงระยับมาสนามฝึก
ลอฟเรนเผย กองหลังคนดังของ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เผยออกมาว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม หงส์แดง เคร่งครัดกับการให้นักฟุตบอลทุกคนไม่เหลิงจนเกินไปจนกระทั่งขนาดเคยเตือนหน้าแข้งดาวรุ่งคนหนึ่งของ “ลิเวอร์พูล” ที่ขับขี่รถสุดหรูกับใส่นาฬิกาข้อมือราคาแพงมาที่สนามฝึก
คล็อปป์ นับว่าเป็นกุนซือที่เคร่งกับเรื่องระเบียบวินัยรวมทั้งทัศนคติของผู้ร่วมทีมมาตั้งแต่ยุคที่ยังจับบังเหียน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แล้ว อย่างก่อนหน้านี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกคนที่ใครๆก็รู้จักของ บาเยิร์น มิวนิค ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่า คล็อปป์ เป็นเสมือนอาจารย์สุดโหดที่เข้มงวดเพื่อผลดีในอนาคตของเด็ก
เปิดเผยกับเว็บอย่างเป็นทางการของ เซนิต ว่า “ผมจะเล่าอะไรสั้นๆให้พวกท่านฟังแล้วกัน เป็นตอนปี 2017 น่ะ มีนักเตะอายุ 18 ปีคนหนึ่งขับรถ เมอร์เซเดส กับสวมนาฬิกาข้อมือ โรเล็กซ์ สีทองอร่ามมาร่วมการซ้อมตอนปรีฤดูกาลวันแรกของ หงส์แดง ผมจะไม่บอกหรอกนะว่าเจ้าหนูคนนั้นชื่อว่าอะไร”
“เวลานี้เขา คล็อปป์ ถามเด็กคนนั้นไปว่า -นายขับรถอะไรมาตรงนี้หรอ ?- ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบว่า -เมอร์เซเดส ฮะ- จากนั้นเขาก็ถามว่ากล่าว -แล้วไอ้ที่อยู่บนข้อมือของนายนั่นคืออะไรน่ะ ?- ก่อนที่เด็กคนนั้นจะตอบว่า -โรเล็กซ์ ฮะ-” บ้านผลบอลเมื่อคืน
“พอได้ยินแบบนั้น ก็ถามว่า -เอ้อ แล้วนายลงเล่นให้กลุ่มชุดใหญ่ไปแล้วกี่นัดเหรอ ?- ซึ่งเด็กคนนั้นก็ตอบว่า -ยังมิได้เล่นเลยฮะ- ที่แท้วันนั้นเด็กคนนั้นสวมนาฬิกาข้อมือสีทองคำสวยงามมาถึง 2 เรือนด้วย! แต่พอเพียงวันถัดมา เขาก็มาที่สนามฝึกโดยที่ใส่นาฬิกาข้อมือทั่วไปกับขับรถปกติมาฝึก”
แต่ว่าทุกสิ่งย่อมมีเหตุมีผล อยู่กับ มาตั้งแต่ปี 2014 จนกระทั่งตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วถึง 5 ปี ทั้งที่เขาชอบเป็นเป้าโดนรุมโจมตีอีกทั้งจากคู่ ต่อสู้แล้วก็แฟนบอล ของตนเอง แต่ว่าคุณสงสัยไหม เพราะเหตุไรเขาก็เลยผิดขาย ยังอยู่กับ กลุ่มได้ ตลอดรอดฝั่ง แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งในยุคทองของ
ลอฟเรนเผย ก่อนที่จะมาเป็นนักฟุตบอลของ ในตอนปี 2014 นั้น เขาถือได้ว่าหนึ่งกองหลังทรงดีของพรีเมียร์ลีก พูดได้ว่าความปราดเปรียว ก็พอเพียงไหว ความมั่นคงก็เอาการ ทั้งยังเป็นหัวหน้าในเกมรับให้กับต้นสังกัดอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน ดังนั้นมันก็เลย ไม่แปลกเลยที่เขาจะย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในฐานะกองหลัง ตัวความมุ่งมาด ตอนที่สมาคมกำลังอยากความเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อยในโลกบอล โน่นเป็นเมื่อนักฟุตบอลคนหนึ่งสามารถทำเป็นดียามที่เล่นกับกลุ่มระดับกึ่งกลางค่อนด้านล่าง จนได้จังหวะซบชมรมยักษ์ใหญ่ซึ่งอยากที่จะให้เขารักษาฟอร์ม ประทับใจจ๊อดจนถึงจำต้องซื้อ มาร่วมทีมถัดไป เพียงแต่ว่า เมื่อถึงเวลา หวยดันออกตรงกันข้าม … ความกดดัน การพบกับสภาพแวดล้อมใหม่ รวมทั้งแท็คติกที่ต่างจากเดิม เป็นหนึ่งในเหตุผลหลายๆข้อที่ทำให้ ลอฟเรน ไม่สามารถทำเป็นดีอย่างที่แฟนๆลิเวอร์พูลตั้งความหวังไว้ ลิเวอร์พูลมา
ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆแต่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปล่อยตัวเกาะติดไปอย่างสบาย เข้าปะทะแพ้ รวมทั้งความผิดพลาดส่วนบุคคล เป็นสิ่งที่ เกิดสังกัด และก็โน่นทำให้เกิดประโยคในกรุ๊ปแฟนบอลว่า “เขาไม่ดีพอเพียงสำหรับ การเป็นนักฟุตบอลของ ลิเวอร์พูล ด้วย”
ลอฟเรนเผย จากผลงานแต่ละครั้ง แล้วก็สถิติการทำผิดพลาดต่างๆพวกเราอาจจะไม่อาจจะปฎิเสธได้ว่า คำติฉินถึงเขาที่กล่าวมาทั้งสิ้นนั้นมีข้อเท็จจริงผสมอยู่บ้าง เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่ทั้งปวง เพราะว่าก่อนที่ จะมี เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ก็ไม่มีเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนไหนดีมากยิ่งกว่าเขาอย่างชัดเจนเลย ไม่ว่าจะเป็น มามาดู ซาหรูหรา, มาร์ติน สเคอร์เทล หรือแม้แต่ โจ โกเมซ ฉะนั้นการบอกว่า ทุกคนจำเป็นจะต้องด้วยกันรับผิดชอบ จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องกว่า
แต่ทว่าถ้าหากมันเป็นความบกพร่องที่ระบบรวมทั้งผู้เล่นโดยรวม ทำไม ลอฟเรน ก็เลยถูกเห็นว่าเป็นข้อบกพร่องที่สะดุดตากว่าคนใด หนำซ้ำยังชอบโดนเอามาทำมีม หรือมุกขำขันล้อเลียนอยู่เสมอแทบผู้เดียว หัวข้อนี้มันควรมีเหตุผลอย่างแน่นอน … มันเป็นเพราะว่าเขาเป็นเสมือน “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” นั่นเอง
มันเกิดเรื่องที่แปลกมากมายสำหรับคนๆหนึ่ง ที่โดนจู่โจมเรื่องความผิดพลาดและก็ความอ่อนชั้นแทบตลอดเวลา แต่ว่าเขาประพฤติตนราวทองไม่รู้ร้อน ไม่ได้รู้สึกหวาดหวั่นกับคำพูดพวกนั้น หนำซ้ำยังชอบตอบกลับด้วยความมั่นใจระดับเกินข้อจำกัดความรู้ความเข้าใจของตัวเองเสียด้วยซ้ำ … โน่นเป็นสิ่งที่ เดยัน ลอฟเรน เป็น และก็บางครั้งเขาก็เถียงผู้ที่โจมตีเขากลับอย่างกล้าหาญเสมอ
ลอฟเรนเผย แบบไม่มีซึ่งความจองหองพองขน ผมก็ยังรับรองว่าผมยอดเยี่ยมในนักฟุตบอลแนวรับที่เก่งที่สุดในโลก ซึ่งผมก็พิสูจน์มันมาแล้วด้วย” ลอฟเรน ว่าไว้ในตอนปี 2018 หลังจากพา ลิเวอร์พูล คว้ารองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และก็ได้รองแชมป์บอลโลก 2018 ร่วมกับกลุ่มชาติโครเอชีย
ใครๆอาจจะเห็นว่าโน่นเป็นคำพูดติดตลกของ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ เขาเป็นคนแบบงั้นจริงๆเขามีความกล้าหาญ และก็มั่นใจในตัวเองสูงมากมาย เขาคิดเข้าข้างตนเองแบบงั้นมาตลอด แต่ว่าโน่นเป็นสิ่งที่เขาตั้งอกตั้งใจให้เป็น เพราะเชื่อว่าความมั่นใจพวกนี้สามารถทำให้เขาเดินไปข้างหน้าได้
หากแม้ที่หมายก็ยังคงเห็นๆกันอยู่ ว่าบางครั้งเขายังคงมีความผิดพลาดเกิดขึ้นแบบชัดๆกระทั่งโทษบุคคลอื่นมิได้ ทั้งการมาของ ฟาน ไดจ์ค ก็ยิ่งทำให้ผู้คนเปรียบระดับที่แตกต่างกันของอีกทั้ง 2 คนได้อย่างดีเยี่ยม แต่ว่าความแน่ใจ ยังคงทำให้ เป็นนักฟุตบอลหงส์แดงถัดไป เพราะเหตุว่าภาวะจิตใจที่แกร่งแล้วก็ชาญชัย เป็นหนึ่งในท่าทางของนักฟุตบอลที่ เยอร์เกน ให้ความ เอาใจใส่สูงที่สุด และก็โน่นเป็น เหตุผลที่ว่าไม ยังอยู่กับ ได้จนกระทั่งตอนนี้
ปรัชญาของ เป็นทุกคน ในกลุ่มล้วน มีความหมาย นานับประการ ซึ่งเองก็สื่อความหมายกับ คล็อปป์ ในแบบที่ ไม่ซ้ำใครด้วย เหมือนกัน เหนือสิ่งอื่นใด เป็นเมื่ออยู่ในสนามฝึกซ้อม แสดงให้ มีความเห็นว่า กลุ่มยังปรารถนา นักฟุตบอล อย่างเขาถัดไป
“ผมแลเห็นอิทธิพล ที่ผู้เล่นของพวกเรา ทุกคนมีต่อสิ่ง ที่พวกเราทำ ในวันแล้ววันเล่า และก็ผมเชื่อถืออย่างเต็มที่สำหรับ ในการมีส่วนร่วม ของทั้งทีม ที่จะทำให้พวกเราเกิดกำลังใจมากเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุว่าโน่นเป็นสิ่ง ที่ผมเห็น ในสนามซ้อม”
“มีผู้เล่นมากมายในกลุ่มของ พวกเราที่จนกระทั่ง ในขณะนี้ ผมยังไม่มีคำชี้แจงที่มีเหตุผลว่าเพราะเหตุใดพวกเขาถึงไม่ได้ เป็นตัวจริง ในเกมมากยิ่งกว่านี้ ซึ่งคนมากมาย เหมาะสมได้รับ แล้วก็ความชื่นชมยินดีของผมมีต่อพวกเขาทั้งยังในฐานะบุคคล รวมทั้งมือโปร คงจะไม่มีวันจะเยอะแยะไปกว่านี้”กล่าวถึงจุดสำคัญสำหรับเพื่อการโรเตชั่นนักฟุตบอลที่เป็นอย่างยิ่งสำรอง รวมทั้งแน่ๆว่าหนึ่งในนั้นเป็น นั่นเอง