เป็นตัวของตัวเอง แกรี่ เนวิลล์ สมัยก่อนตัวบุกปีกขวาคนที่ใครๆก็รู้จักของ แมนฯ ยูไนเต็ด เจาะจง ส่วนตัวแล้วตนอยากที่จะให้ เวย์น รูนี่ย์ ทำทีม ดาร์บี้

เป็นตัวของตัวเอง ให้เล่นด้วยความดุเดือดเสมือนยุคที่ รูนี่ย์ ยังอายุน้อยๆซึ่งราวกับที่ ดีเอโก้ สิเมโอเน่ ทำกับ แอตำบล มาดริด โดยกล่าวว่าการมั่นใจในตัวเองถือได้ว่าสิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุด

แกรี่ เนวิลล์ ตำนานตัวบุกปีกขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชมรมดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความมุ่งหวังว่า เวย์น รูนึ่ย์ อดีตกาลเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มที่พึ่งจะได้เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล ดาร์บี้ เคาน์ตี้ แบบถาวรนั้น จะทำทีมในสไตล์เดียวกับ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นายใหญ่ แอตเลติโก มาดริด โน่นเป็นทำให้กลุ่มเล่นแบบดุเดือดเสมือนยุคที่ รูนี่ย์ ยังอยู่ในวัยชายหนุ่ม

ภายหลังรับบทบาทนักฟุตบอลควบกันที่ปรึกษาขัดตาทัพของ ดาร์บี้ มาอยู่พักหนึ่ง ท้ายที่สุด รูนี่ย์ ก็ได้เป็นผู้จัดการทีม “แกะเขาเหล็ก” แบบเต็มกำลังเมื่อวันศุกร์ที่ 15 เดือนมกราคม ก่อนหน้านี้ ซึ่งมันก็ทำให้เขาตกลงใจเลิกเล่นบอลอาชีพตามไปด้วย บ้านผลบอลเมื่อคืน

เนวิลล์ เปิดเผยว่า “ผมหวังว่ากลุ่มของเขาจะมีลักษณะนิสัยอย่างกับ เวย์น รูนี่ย์ ผมหมายความว่า เวย์น รูนี่ย์ เวอร์ชั่นเด็กน่ะ ไม่ใช่เวอร์ชั่นที่แก่แล้วรวมทั้งมีนิสัยเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น ผมรู้ว่ายุคนี้น่ะคนถูกใจให้ท่านเป็นพวกที่กล่าวแบบอ่อนโยน แต่ว่าผมหวังว่าเขาจะเป็นราวกับ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ยุคที่ยังเป็นเด็กกับเป็นนักฟุตบอลนั้นเขาเป็นพวกดุเดือดและก็ชั่วร้าย และก็กลุ่มของเขาก็เป็นอย่างงั้นเช่นเดียวกัน”

“แท้จริงการไม่เป็นตัวของตัวเองเป็นอย่างเดียวที่ผมเสียดายเมื่อย้อนรำลึกถึงสิ่งที่ผมเคยพยายามทำ ผมเพียรพยายามเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวของตน กลุ่มของผมควรเป็นกลุ่มที่น่าเบื่อ, เล่นได้ขาดความกรุณาปรานี รวมทั้งอันตราย มันควรเป็นกลุ่มที่สร้างโดยยึดเอาความรู้สึกของผมเป็นศูนย์กลางในเรื่องที่ว่ากลุ่มบอลมันควรเป็นอย่างไร แม้กระนั้นในที่สุดผมไปวุ่นวายอยู่กับการแบ่งแยกคู่เซนเตอร์แบ็ก”

“ผมคงเสนอแนะใหเเขาเชื่อมั่นในตัวเอง ยุคเด็กๆเขาเป็นนักฟุตบอลที่ดุร้ายแบบนักสู้ริมถนน ฉะนั้นเขาก็ควรเป็นแบบงั้นถัดไป เขาเคยเล่นแบบดุร้าย และก็เขาก็น่าจะให้กลุ่มของเขาเล่นแบบงั้น ก็หวังว่ากลุ่มของเขาจะเล่นได้ราวกับยุคที่เขาอยู่ในจุดพีคของอาชีพการค้าขายหน้าแข้งของเขานะ”

ดังนี้ รูนี่ย์ พึ่งพาทีมเปิดรัง ไพรด์ พาร์ค เอาชนะ บอร์นมัธ 1-0 ในเกม เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อวันอังคารที่ 19 ม.ค. ที่่ผ่านมา กระทั่งทำให้ ดาร์บี้ เก็บเพิ่มเป็น 22 คะแนน จากการลงเล่น 24 นัดหมาย ขึ้นมาอยู่ที่ 21 ของตารางคะแนน ซึ่งเป็นโซนรอดจากการตกชั้น

แต่ว่าก็มีแต้มห่างจาก ร็อตเธอร์แฮม ยูไนเต็ด กลุ่มในโซนตกชั้นเพียงแค่ 2 แต้มเพียงแค่นั้น แถมกลุ่มของ รูนี่ย์ ยังลงเล่นมากยิ่งกว่า 2 เกมด้วย โดยมันถือได้ว่าเป็นการแก้ตัวจากนัดหมายเปิดฉากอาชีพผู้จัดการทีมแบบสุดกำลังของเขาได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยเหตุว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 16 เดือนมกราคม ก่อนหน้าที่ผ่านมา เจ็บแล้วไม่ยอมจำ

เขาพึ่งจะพาทีมแพ้ ร็อตเธอร์แฮม 0-1 คาบ้านมาหมาดๆขอให้โชคดีกับหน้าที่ใหม่ เวย์น รูนี่ย์ ห้อยสตั๊ดแล้ว ข้างหลังโลดแล่นอยู่ในสนามมาอย่างนานแทบ 20 ปี

เวย์น รูนี่ย์ อดีตแนวรุกกลุ่มชาติอังกฤษ และก็ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศล่ำลาสนามในฐานะนักเตะอาชีพแล้ว ข้างหลังได้รับการแต่งให้ปฏิบัติภารกิจผู้จัดการทีมฟุตบอล ดาร์บี้ เคาน์ตี้ แบบถาวร เมื่อวันศุกร์ที่ 15 เดือนมกราคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โดยเซ็นสัญญาคุมกองทัพตรงเวลา 2 ปีครึ่ง

รูนี่ย์ วัย 35 ปี ปฏิบัติหน้าที่เป็นนักฟุตบอลควบผู้จัดการทีมฟุตบอลชั่วครั้งชั่วคราวให้กับ “แกะเขาเหล็ก” ตั้งแต่สมาคมสั่งปลด ฟิลลิป วัวคู เมื่อพฤศจิกายนปีให้หลัง เพราะเหตุว่าทำผลงานตกอับชนะเพียงแค่เกมเดียวจาก 13 ครั้งแรกของฤดู 2020/21 จนกระทั่งกลุ่มตกไปอยู่ชั้นท้ายที่สุดของตารางคะแนน

ดาร์บี้ เคาน์ตี้ สมาพันธ์ในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ประกาศตั้งให้ เวย์น รูนี่ย์ อดีตกาลแผงหน้ากลุ่มชาติอังกฤษ ปฏิบัติภารกิจผู้จัดการทีมฟุตบอลแบบถาวรอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ 15 เดือนมกราคม ก่อนหน้านี้ โดยเซ็นสัญญาคุมกองทัพตรงเวลา 2 ปีครึ่ง

เวย์น รูนี่ย์ แนวรุกและก็กุนซือชั่วครั้งชั่วคราวของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ชมรมในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เผยออกมาว่า เอฟเวอร์ตัน เคยอยากที่จะให้ตนย้ายไปอยู่กับ เชลซี มากยิ่งกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องมาจาก “สิงโตน้ำเงินคราม” ให้ค่าจ้างสูงขึ้นยิ่งกว่า

รูนี่ย์ เป็นดาวรุ่งที่ได้รับการจับตาภายหลังที่ทำผลงานได้สะดุดตาตอนอยู่ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งในที่สุดก็เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่จับตัวได้เขาไปร่วมกองทัพในตอนซัมเมอร์ ปี 2004 และก็เจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมกับตรงนั้นจนกระทั่งนับว่าเป็นขวัญใจของ “เร้ด อาร์มี่” คนหนึ่ง พร้อมด้วยช่วยทำให้กลุ่มประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

รูนี่ย์ รายงานในรายการพ็อดแคสต์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่า “ในเวลานั้น เอฟเวอร์ตัน กำลังมีปัญหาด้านการเงินอย่างยิ่ง แล้วก็ผมก็มารู้ว่าพวกเขายอมรับฟังข้อแนะนำจากกลุ่มอื่นๆแบบเดียวกัน ที่แท้พวกเขาบากบั่นที่จะให้ผมย้ายไปอยู่กับ เชลซี ด้วย

เพราะเหตุว่าพวกเขาเป็นกลุ่มที่เสนอจะจ่ายเงินให้เยอะที่สุด แต่ว่าเพียงพอผมรู้ดีว่า ยูไนเต็ด มีความสนใจในตัวผมแล้วน่ะ ผมก็อยากได้รับการรับรองโดยทันทีว่าพวกเขาต้องการเซ็นสัญญากับผมจริงๆแล้วก็เมื่อผมรู้ดีว่าพวกเขาอยากตัวผมในความเป็นจริงแล้วนั้น ผมก็ตกลงใจขั้นเด็ดขาดเลยว่าพวกเขาเป็นกลุ่มเดียวที่ผมจะยอมย้ายไปอยู่ด้วย”

จอมบุกวัย 35 ปี เสริมว่า นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มานะที่จะตัดหน้าดึงตนไปร่วมกลุ่มในตอนโค้งสุดท้ายเสมือนที่เคยมีข่าวลือในตอนนั้นจริง รวมทั้งตนก็เอาการของ “สาลิกาดง” ไปข่มขู่ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด รีบเซ็นสัญญากับตนด้วย “มันเป็นการย้ายกลุ่มที่เหมาะสมกับผมมากมายๆ

แท้จริง ยูไนเต็ด ต้องการรอคอยอีก 1 ปีกลายที่จะให้ผมมาอยู่กับกลุ่ม แม้กระนั้นแล้ว นิวค้างสเซิ่ล ก็เข้ามาพูดจากับ เอฟเวอร์ตัน แล้วก็กับผม ผมไม่สามารถที่จะทนอยู่กับกลุ่มเดิมต่อ 1 ปีได้ ผมไม่สามารถที่จะอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ต่ออีก 1 ปีได้ ด้วยเหตุนั้นผมเลยพร้อมที่จะย้ายไปอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล

ในปีนั้น ผมคุยกับพวกเขาถึงเรื่องค่าแรงงานรวมทั้งสิ่งที่ผมอยาก ผมบอกกับพวกเขาไปว่าหากผมย้ายไปเล่นกับพวกเขาแต่ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดต่อเข้ามาขอซื้อผมแล้วล่ะก็ พวกเขาก็จำต้องยอมปลดปล่อยผม ซึ่ง นิวคาสเซิ่ล ก็สารภาพข้อแม้นั้น”

“แต่ จากนั้นผมก็ติดต่อกลับไปพบ ยูไนเต็ด แล้วบอกพวกเขาไปว่า -ถ้าเกิดพวกท่านไม่ลงมือกระทำให้มีการย้ายกลุ่มตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลยแล้วล่ะก็ ผมก็จะย้ายไปอยู่กับ นิวค้างสเซิ่ล โดยที่มีเงื่อนไขว่าจะย้ายไปอยู่กับพวกท่านในอนาคตแทน

เห็นได้ชัดว่า ยูไนเต็ด ไม่ต้องการให้ผมย้ายไปคงที่โน่น ด้วยเหตุผลดังกล่าวท้ายที่สุดแล้วผมก็เลยได้มาคงที่นี่ บอกแบบง่ายๆก็คือไม่ว่า นิวค้างสเซิ่ล จะชำระเงินเพื่อดึงผมไปร่วมกองทัพมากมายแค่ไหน ยูไนเต็ด ก็จำเป็นต้องชำระเงินในปริมาณเดียวกันในปีหน้าอยู่แล้ว (คือในเมื่อจำต้องชำระเงินเสมอกันอยู่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เลือกที่จะยอมจ่ายตั้งแต่ปี 2004 เลยดีมากยิ่งกว่า)”