เลสเตอร์ปรับทัพ “จิ้งจอกสยาม” เรียกความเชื่อมั่นและมั่นใจด้วยการพึ่งเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด มาในลีก
เลสเตอร์ปรับทัพ สปาร์ตัก มอสโก ของที่ปรึกษา รุย วิตอเรีย กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้งหลังคว้าชัยมาถึง 3 จาก 4 เกมปัจจุบัน โดยเกมที่แล้วเจ๊ากับ ดินาโม มอสโก ไปแบบสุดสนุก 2-2 เมื่อวันเสาร์
ความพร้อมเพรียงเกมนี้ วิตอเรีย มีปัญหาสำหรับเพื่อการจัดกองทัพมากอย่างยิ่งจริงๆเนื่องจากจะไม่มี มัสซิมิเลียโน่ คอฟริส ที่ติดโทษแบนข้างหลังโดนไล่ออกในเกมกับ นาโปลี รวมทั้ง ควินซี่ โพรเมส รวมทั้ง เอเซเกล ปอนเซ่ สองปีกตัวเก่งที่เจ็บอยู่ ไม่พลาดสามแต้ม
ทำให้การจัดกองทัพจะยังยึดชุดเดิมจากเมื่อสุดสัปดาห์ลงไปในสนามเป็นหลักถัดไปแนวรับวาง นิโคไล รัซซ์กาซอฟ, ซามูแอล ฌีโฌ่ รวมทั้ง จอร์จี้ ชิคิย่า ผนึกกำลังต่อต้านเกมรุกกลุ่มเยี่ยมด้วยกัน
ดินแดนกึ่งกลางใช้ โรมัน ซ็อบนิน รอคุมเกมโดยมี วิคเตอร์ โมเซส อดีตกาลตัวรุกเชลซี ปั่นป่วนอยู่ขอบเส้น แล้วก็คู่แนวรุกเป็น จอร์แดน ลาร์สสัน กับ อเล็กซานเดอร์ โซโบเลฟ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม “สนัขจิ้งจอก” พาทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยข้างหลังเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-2 ในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
ภาวะกลุ่มปัจจุบันจำเป็นต้องรอคอยเช็กความฟิตของ จอนนี่ อีแวนส์ อีกรอบข้างหลังเจ็บบางส่วนมาจากเกมกับ แมนยู แม้กระนั้นคาดว่า บีร็อด คงจะให้พักอยู่ที่อังกฤษไปเลย แม้กระนั้นในรายของ เจมส์ จัสติน, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ยังเดี้ยงไม่พร้อมลงในสนาม
ส่วนการจัดกองทัพจะมีการปรับแน่ๆ โดย กระทั่งถึงนิค เวสเตอร์การ์ด จะได้ลงเล่นแทน อีแวนส์ ติดต่อประสานงานกับ คักลาร์ โซยุนคู และก็ ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์ เป็นสามกองหลังตัวกลาง
ดินแดนกึ่งกลางส่งดาวรุ่งอย่าง เคียร์แนน มองวส์บิวรี่-ฮอลล์ จับคู่กับ เคียร์แนน ดูวส์บิวรี่-ฮอลล์ ในตำแหน่งกองกลาง รวมทั้งคู่หน้าใช้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ล่าตาข่ายร่วมกับ แพตสัน ดากก้า
เลสเตอร์ปรับทัพ เลสเตอร์กลับแดนนรกแซงดับสปาร์ตัก-ซิวชัยครั้งแรกยูโรปา
แพทสัน ดาก้า ศูนย์หน้าชาวแซมเบียสุดโหดเหี้ยมเหมาผู้เดียว 4 ตุง พา เลสเตอร์ สิตี้ พลิกกลับมาเอาชนะ สปาร์ตัก มอสโก แบบสุดมันทั้งๆที่โดนนำก่อนสองประตู ทำให้กลุ่มของ แบรนเดน รอดเจอร์ส คว้าชัยครั้งแรกในศึกยูโรปาลีกได้สำเร็จขึ้นไปรั้งที่ 2 ของกรุ๊ปซี ศึกบอลยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ปซี ทุกวันพุธที่ 20 ต.ค. 2564 ที่สนาม อ็อตครีติเย่ อารีน่า ระหว่าง สปาร์ตัก มอสโก รองผู้นำฝูงของกรุ๊ป เจอ เลสเตอร์ ซิตี้ บ๊วยของกรุ๊ปที่มีเพียงแต่แต้มเดียวเพียงแค่นั้น
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม “สุนัขจิ้งจอก” เกมนี้จัดกองทัพเต็บดูดดร็อปเพียงแต่ เจมี่ วาร์ดี้ เพียงแต่รายเดียวเพียงแค่นั้นแล้วส่งคู่หน้าอย่าง แพทสัน ดาก้า แล้วก็ เคเลชี่ อิเฮียที่นาโช่ ลงล่าตาข่าย บ้านผลบอลวันนี้
โดยมี เจมส์ แมดดิสัน รอปั้นเกมอยู่ข้างหลัง ครึ่งแรกเล่นมาได้ 5 นาทีเป็น สปาอร์ตัก ที่ได้ทักก่อน ไอร์ตัน ลูคัส ลากจากซ้ายตัดเข้ากึ่งกลางแล้วกดด้วยขวาแม้กระนั้นบอลไม่ตรงกรอบ
จากนั้น เลสเตอร์ สบโอกาสบ้างจากจังหวะสวนกลับ เจมส์ แมดดิสัน ชูบอลให้ แพตสัน ดาก้า หลุดไปกดด้วยซ้ายแบบไม่จับในจุดโทษแต่ว่าบอลไม่ตรงกรอบ แต่นาที 11 อเล็กซานเดอร์ โซโบเลฟ ตั้งป้อมปั่นด้วยขวาหน้าจุดโทษบอลไปไถล ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์ เปลี่ยนแปลงปากทางเข้าประตูไปให้ สปอร์ตัก ขึ้นนำ เลสเตอร์ 1-0
เลสเตอร์ เดินหน้าบุกใส่อย่างมากหวังทวงประตูคืน
นาที16 ยูริ ตีเลมันส์ ตั้งป้อมกดด้วยขวาหน้าจุดโทษไปติดเซฟ อเล็กซานเดอร์ มัคซิเมนโก้ ปัดมาเข้าทางปืนของ เจมส์ แมดดิสัน มีเวลาได้บรรจงปั่นด้วยขวาแม้กระนั้นบอลผ่านคาน หากแม้ เลสเตอร์ จะเป็นข้างครอบครองบอลบุกใส่อย่างมาก แต่ว่าจังหวะท้ายที่สุดไม่เฉียบคมพอเพียง
จนกระทั่งนาที 44 วิคเตอร์ โมเซส ฉุดกระชากหลุดเข้าจุดโทษแล้วจ่ายเรียดไปที่หน้าปากประตูให้ จอร์แดน ลาร์สสัน ยิงจ่อๆแบบไม่จับจ่ายบอลตุงตาข่ายให้ สปาร์ตัก นำห่างเป็น 2-0
ถึงกระนั้นสองนาทีต่อมา เลสเตอร์ ตามตีไข่แตกได้ในทันทีไล่มาเป็น 1-2 เมื่อ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ แทงทะลุช่องให้ แพตสัน ดาก้า หลุดลำพังยิงผ่านมือของ อเล็กซานเดอร์ มัคซิเมนโก้ เข้าประตูไป แล้วก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ช่วงหลังเริ่มมาได้เพียงแค่ 3นาที เลสเตอร์ ไล่หลังตีเสมอเป็น 2-2 เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ หลุดมาในจุดโทษก่อนที่จะเฉือนเรียดกลับมาที่หน้าปากประตูให้ แพตสัน ดาก้า ยิงจ่อๆเข้าประตูไป
แค่นี้ยังไม่เพียงพอนาที 54 “จิ้งจอก” แซงขึ้นนำเป็น 3-2 เจมส์ แมดดิสัน แทงทะลุช่องให้ แพทสัน ดาก้า หลุดผู้เดียวไปซัดด้วยซ้ายเน้นย้ำๆส่งบองตุงตาข่ายพร้อมด้วยเป็นแฮตทริกของศูนย์หน้าของศูนย์หน้ากลุ่มชาติแซมเบียในเกมนี้
อย่างไรก็แล้วแต่ช่วงท้ายเกมนาที 86 สปาร์ตัก ไล่มาเป็น 3-4 วิคเตอร์ โมเซส หลุดไปถึงสุดเส้นข้างหลังแล้วเฉือนเข้ากึ่งกลางให้ อเล็กซานเดอร์ โซโบเลฟ พุ่งเข้ามาชาร์จจ่อๆจ่ายบอลตุงตาข่าย ขณะที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เลสเตอร์ บุกเอาชนะ สปาร์ตัก มอสโก 4-3 คว้าชัยครั้งแรกขึ้นไปรั้งรองผู้นำฝูงของกรุ๊ป